แชร์

Organic Content VS Paid Content ยิงโฆษณาแอดดีไหม

อัพเดทล่าสุด: 15 พ.ค. 2024
281 ผู้เข้าชม

ยิงแอดโฆษณายังไงให้คนทักเยอะ ยิงแอดโฆษณายังไงให้คนเห็นเยอะ หรือจะเลือกทำ Organic Content ไปเลย นี่เป็นหนึ่งคำถามที่คนทำแบรนด์สงสัยกันอยู่เสมอ วันนี้เรารวมคำตอบมาให้แล้วว่าเลือกวิธีไหนดีกว่ากัน

 

เลือกหัวข้อที่คุณอยากอ่านได้เลย

 

หลังจากเลือกใช้วิธีทำ Organic Content มาสักพัก แต่ไม่ค่อยเห็นผลดีเท่าไหร่ ยัง Lead Conversion ไม่ได้เหมือนที่คิดไว้ หรือแบรนด์ควรเลือกใช้วิธี Paid Content ไปเลยดีกว่า ซึ่งความจริงแล้ว Organic Content VS Paid Content เหมาะกับสไตล์คอนเทนต์ที่แตกต่างกันออกไป สำหรับบทความนี้ เรารวมคำตอบสิ่งที่เจ้าของแบรนด์ ผู้ประกอบการและ Creator สงสัยมาให้แล้ว

Organic Content คืออะไร

Organic Content คือ คอนเทนต์ที่ลงโพสบนโซเชียลมีเดียในรูปแบบต่างๆ เช่น ภาพ วิดีโอ มีม ฯลฯ โดยที่ไม่ได้ Boost โพสต์คอนเทนต์ หรือยิงโฆษณา นอกจากนี้ Organic Content คอนเทนต์ที่เกิดจาก UGC หรือเหล่า Follower ที่สร้างคอนเทนต์ที่ขึ้นมาเองอีกด้วย ความยากของ Organic Content อยู่ตรงที่ไม่ใช่ทุกคอนเทนต์ที่จะมียอด Reach และ Engage สูงเสมอ 

 

คำถามต่อมาคือ แบรนด์ควรทำ Organic Content ยังไงให้เข้าถึงฐานลูกค้าได้มากที่สุด ทริคของการทำ Organic Content ได้แก่

  • Organic Content ควรบ่งบอกถึงคาแรกเตอร์ของแบรนด์ที่โดดเด่น ชัดเจนและแตกต่าง
  • ทำ Organic Content ที่สร้างปฏิสัมพันธ์กับเหล่าผู้ติดตามอยู่เสมอ เช่น คอนเทนต์ให้ความรู้  คอนเทนต์สนุก และคอนเทนต์สร้างแรงบันดาลใจ สไตล์คอนเทนต์เหล่านี้ สามารถสร้างยอดคอมเมนต์และแชร์ได้มาก
  • ทำ Organic Content ที่ตรงกับ Buying Journey ทุกขั้นตอน

 

การวัดผลของ Organic Content ในมุมมองของแบรนด์ ขึ้นอยู่กับเป้าหมายของการทำคอนเทนต์ด้วยเหมือนกันและอัลกอริทึมของแต่ละแพลตฟอร์ม เช่น

  • Facebook - วัดที่จำนวน Reach , จำนวน Impression , จำนวน Engagement Rate
  • Tiktok - วัดที่จำนวน VDO View , จำนวน Engagement
  • IG - วัดที่จำนวน Reach , จำนวน Impression , จำนวน Engagement
  • Youtube - วัดที่จำนวน View , จำนวน Engagement
  • X - วัดที่จำนวน Engagement , จำนวน Retweet , จำนวน Mention

 

ข้อดีของการทำ Organic Content

ในมุมมองของคนทำคอนเทนต์เอง ทั้ง Organic Content VS Paid Content มีทั้งข้อดีและข้อจำกัดที่เราต้องมาชั่งน้ำหนักอีกทีว่า เนื้อหาคอนเทนต์นี้ควรใช้วิธียิงแอดโฆษณาช่วยดีไหม หรือจะลงโพสต์คอนเทนต์ปกติเฉยๆ ว่าแล้วเรามาดูข้อดีของการทำ Organic Content ก่อนดีกว่า

 

1. ไม่ต้องเสียค่าโฆษณา

แน่นอนว่าการทำโพสแบบนี้ ช่วยให้เจ้าของแบรนด์ไม่ต้องลงงบการตลาดเลย ยิ่งถ้าคอนเทนต์ถูกใจคนเสพ จะช่วยเพิ่มยอดผู้ติดตามได้เหมือนกัน แต่ปัจจัยหลักที่จะทำให้คอนเทนต์โดนใจคนดูได้ มาจากเรื่องราว ช่วงเวลาลงโพสและการแข่งขันของโพสต์คอนเทนต์คู่แข่งด้วยเหมือนกัน

ปัจจัยทั้ง 3 เรื่องนี้ คุณสามารถเอา Data จากหลังบ้านมาใช้วิเคราะห์แล้วทำให้คอนเทนต์ให้น่าสนใจได้นะ ยกตัวอย่างเช่น 

  • เนื้อหาแบบไหนที่คนกดไลค์เยอะ 
  • ช่วงเวลาโพสอันไหนที่ยอด Reach เยอะ 
  • คู่แข่งโพสคอนเทนต์แบบไหนที่ได้ผลดีบ้าง

คำถามเหล่านี้ จะช่วยให้คุณได้ Guildline การทำคอนเทนต์ ช่วยให้คุณผลิต Content Marketing ที่โดนใจกลุ่มเป้าหมายได้เป็นอย่างดี

 

2. สร้างความน่าเชื่อถือระหว่างแบรนด์กับลูกค้า

Organic Content  ช่วยสร้าง Trust ให้กับลูกค้าได้จริงหรือ เอาเข้าจริงลูกค้าในตอนนี้ เริ่มแยกออกแล้วว่า คอนเทนต์นี้ตั้งใจจะขายของหรือตั้งใจจะเล่าเรื่องที่น่าฟังกันแน่ ยิ่งถ้าเป็น Content ที่ไม่ได้พูดถึงตัวแบรนด์ สินค้ามากเกินไป

สังเกตมั้ยว่าลูกค้าจะเข้าคอมเมนต์ แชร์และกดไลค์มากกว่า Brand Content นั่นเพราะว่า Organic Content เน้นเล่าเรื่องราวที่ตรงใจ อธิบายข้อมูลที่มีประโยชน์กับลูกค้ามากกว่าการขายของตรงๆ สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้ลูกค้าจดจำแบรนด์ได้ แล้วมองว่าแบรนด์สินค้าเป็นกูรูในเรื่องนั้นอย่างแท้จริง

 

3. เห็นผลลัพธ์ในระยะยาว

ไม่มีงบทำการตลาด ไม่ใช่ปัญหา!
การทำคอนเทนต์แบบไม่ยิงแอด เหมาะกับการทำแบรนด์ในระยะเริ่มต้น เพราะทำงานและลงมือทำคอนเทนต์ได้ทันที เจ้าของแบรนด์และผู้ประกอบการไม่จำเป็นต้องมีงบลงโฆษณาหรือไม่ต้องใช้เทคนิคการยิงแอดขั้นสูง เพียงแต่คุณต้อง

  • รู้จักและเข้าใจกลุ่มเป้าหมาย ทั้งความชอบและมุมมองการเลือกซื้อของ
  • เข้าใจความต้องการของลูกค้า ว่าทำไมต้องซื้อสินค้าแบรนด์นี้
  • มีจุดขายสินค้าที่แตกต่างจากแบรนด์อื่นๆ 
  • มีวิธีเล่าเรื่อง ทำคอนเทนต์ที่น่าสนใจและไม่เหมือนแบรนด์อื่นๆ

 

แม้ว่าคอนเทนต์ชิ้นแรกจะไม่เห็นผลลัพธ์เท่าที่ควร แต่ก็เป็นโอกาสที่คุณจะได้สร้างคอนเทนต์ชิ้นต่อไปโดยดูข้อมูล Insight จากหลังบ้าน เอามาวิเคราะห์ความสนใจของลูกค้า เพื่อจะทำคอนเทนต์ต่อไปให้น่าดูมากขึ้น

นอกจากนี้ Social Media หลายแพลตฟอร์ม ก็เริ่มที่จะปรับลดการมองเห็นของคอนเทนต์แบบ Organic Content ยกเว้นว่าคอนเทนต์นั้นได้ Engagement rate จากผู้ติดตามสูงจริงๆ  นั่นหมายความว่า เหล่า Content Creator นักการตลาด เจ้าของแบรนด์และผู้ประกอบการคงต้องใส่ใจเรื่องการทำคอนเทนต์ที่ได้คุณภาพจริงให้กับลูกค้า

อีกเรื่องหนึ่งคือลูกค้าจะทำความรู้จักกับแบรนด์ โดยเริ่มที่จะเสิร์ชหา แล้วย้อนดูคอนเทนต์เก่าๆของแบรนด์อย่างละเอียด เพื่อเช็กว่าแบรนด์สินค้าน่าซื้อและให้ข้อมูลแบบไหน หาก Organic Content ของแบรนด์ให้คุณค่ากับลูกค้า ในปริมาณที่มาก จุดนี้จะทำให้ลูกค้ารู้สึกเชื่อมั่นใจแบรนด์สินค้ามากขึ้น

 

Paid Content  คืออะไร

Paid Content เป็นคอนเทนต์บนโซเชียลมีเดีย ที่นำมายิงโฆษณา เพื่อโปรโมทแบรนด์ให้เป็นที่รู้จัก เพิ่มการเข้าถึงของคอนเทนต์ได้ อีกทั้ง เวลาที่แบรนด์ยิงโฆษณาผ่านช่องทาง Facebook , Youtube , LinkedIn , X ฯลฯ สิ่งหนึ่งแบรนด์จะได้เพิ่มเติม นั่นคือ กลุ่มลูกค้าใหม่ ที่มีความสนใจใกล้เคียงกับฐานลูกค้าเดิม

แบรนด์สามารถจ้างยิงโฆษณาในคอนเทนต์แบบไหนได้บ้าง

  • ยิงโฆษณาบนคอนเทนต์ Feed Photo วิดีโอและเทรนด์ต่างๆ เพิ่มการรู้จัก
  • ยิงโฆษณาในแคมเปญการตลาดและโปรโมทชั่น
  • ยิงโฆษณาโปรโมทกิจกรรม ทำโฆษณาคอนเทนต์โปรโมทเพจ
  • ยิงโฆษณาผ่านคอนเทนต์ของ Influencer

เหตุผลที่แบรนด์เลือกใช้วิธีจ้างยิงโฆษณาเพราะว่า

  • สร้างการรับรู้ให้แบรนด์ Brand Awareness และเพิ่มยอดผู้ติดตาม
  • โปรโมทข่าวสาร ข้อมูลและเทรนด์ความรู้ใหม่
  • เพิ่มยอด Inbox และการทักสอบถามจากลูกค้า
  • เพิ่มยอดขายสินค้าบนออนไลน์ Conversion 

ข้อดีของการทำคอนเทนต์ยิงแอด Paid Content

หลายคนเลือกใช้วิธียิงแอดโฆษณาควบคู่ไปกับคอนเทนต์แบบ Organic โดยเลือกเฉพาะคอนเทนต์ที่มองแล้วว่า ถ้ายิงโฆษณาแล้วจะได้ผลดีกว่าการลงโพสต์คอนเทนต์แบบปกติ ยิงโฆษณาคอนเทนต์จึงมีความสำคัญอยู่ไม่น้อย เรามาดูข้อดีของการยิงโฆษณาคอนเทนต์กัน

 

1. ยิงโฆษณากลุ่มเป้าหมายที่แม่นขึ้น

ไม่ว่าคุณจะยิงแอดโฆษณาผ่าน Facebook , Instagram , Youtube และ Tiktok สิ่งหนึ่งที่เห็นชัดเลยคือ ผู้ยิงโฆษณาสามารถกำหนดกลุ่มเป้าหมายที่อยากให้เห็นคอนเทนต์นี้ได้อย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็น เพศ อายุ สถานที่และความสนใจ

ดังนั้น สิ่งสำคัญในการทำแคมเปญออนไลน์ อยู่ที่เจ้าของแบรนด์และนักการตลาด ควรมีความเข้าใจเกี่ยวกับ Interest และ Personality ของลูกค้าให้ชัดเจน

 

2. วัดผลลัพธ์การยิงโฆษณาได้ ROI

ค่า ROI หรือ Return on Investment เป็นวิธีการวัดผลการยิงโฆษณาบนช่องทางโซเชียลมีเดียออนไลน์ โดยเช็กว่าค่ายิงโฆษณา 1 บาทจะได้ยอดคลิก หรือยอดขายกลับมาหรือไม่ จำนวนเท่าไหร่ ซึ่งวิธีการวัดผลลักษณะนี้ จะตรวจสอบได้ยากกว่าเมื่อคุณซื้อสื่อโฆษณาบนออฟไลน์

เคล็ดลับของการยิงแอดโฆษณา คือ เจ้าของแบรนด์ควรเลือกสื่อโซเชียลมีเดียที่เหมาะกับสไตล์คอนเทนต์มากที่สุด เพื่อให้ได้ผลลัพธ์การยิงแอดที่ได้ประสิทธิภาพ

 

Organic Content VS Paid Content ทำแบบไหนดีกว่ากัน

ในช่วงแรกของการทำคอนเทนต์บนช่องทางโซเชียลมีเดียต่างๆ แนะนำให้แบรนด์ลองลงโพสต์คอนเทนต์ในหลากหลายรูปแบบและหัวข้อมดูก่อน เพื่อดูว่าคอนเทนต์แบบไหนได้ยอด Reach เยอะที่สุดและนำข้อมูล Insight หลังบ้านมาใช้วิเคราะห์ ความสนใจของกลุ่มเป้าหมายอย่างต่อเนื่อง เมื่อได้คอนเทนต์ที่มียอด Reach และ Engagement สูง ให้นำคอนเทนต์เหล่านั้นมาใช้ยิงโฆษณาต่อ 

Organic Content VS Paid Content มีข้อดีและข้อจำกัดแตกต่างกันออกไป จะทำอย่างใดอย่างหนึ่งเพียงอย่างเดียวคงไม่ได้ เพราะ Organic Content มีประโยชน์ในแง่ที่ช่วยเพิ่มการรับรู้ สร้างการมีส่วนร่วมระหว่างแบรนด์กับกลุ่มผู้ติดตามเดิมอยู่ ช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างแบรนด์กับลูกค้า แต่  Organic Content  จะใช้เวลานานถึงจะเห็นผลลัพธ์จำนวนมากจากหลังบ้าน

ขณะที่ Paid Content  จะเหมาะกับการทำคอนเทนต์ที่มีเป้าหมายเพื่อขยายฐานลูกค้าใหม่ๆ และใช้ระยะเวลาเร็วกกว่า Organic Content ซึ่งอดปฎิเสธไม่ได้เลยว่า ปัจจุบันนี้การทำคอนเทนต์แบบไม่ยิงโฆษณาอย่างเดียว อาจจะไม่ได้เห็นผลลัพธ์เท่าที่ควร เพราะว่าคอนเทนต์เริ่มมีการแข่งขันที่สูงขึ้น

มองหาบริการรับทำคอนเทนต์ วางแผนคอนเทนต์ Content Plan รับเขียนคอนเทนต์ เพิ่มยอดการมองเห็นบนช่องทางโซเชียลมีเดีย สอบถามทีมงาน GoOn Content เพื่อรับคำแนะนำก่อนตัดสินใจ และลงมือทำคอนเทนต์จริงๆ ได้ที่นี่


บทความที่เกี่ยวข้อง
วิธีวัดประสิทธิภาพคอนเทนต์บน Tiktok 2024
Tiktok เป็นอีกหนึ่งโซเชียลมีเดียแพลตฟอร์มที่กำลังนิยมทั่วโลก ด้วยอัลกอริทึมที่คอยผลักดันคอนเทนต์แบบ Organic ให้มียอดพุ่งทะยานขึ้นได้ง่าย
15 พ.ค. 2024
แจกขนาดรูป Social Media
ในพาร์ทนี้ เราเลยรวบรวมขนาดรูป Social Media ในทุกช่องทาง เช่น ขนาดรูป Facebook ขนาดรูป instagram ขนาดรูป tiktok ขนาดรูป line ขนาดรูป youtube ฯลฯ
15 พ.ค. 2024
International seo คืออะไร
ถ้าอยากเพิ่มโอกาสการคลิกชมเว็บไซต์ในต่างประเทศ พร้อมขยายฐานลูกค้าต่างชาติมากขึ้น การทำ International SEO เป็นอีกหนึ่งเทคนิคที่คนทำ SEO และนักตลาดเลือกใช้กันมากยิ่งขึ้น
15 พ.ค. 2024
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy